วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

บ้านพระพร ณ อุบลราชธานี

-->
         สิ่งที่ได้รับจากบ้านพระพร  (มูลนิธิพระพรอุบลราชธานี http://bless-ubon.org/index.php/ติดต่อเรา-contact.html) ในวันนี้  ทำให้ทราบว่า ณ จังหวัดอุบลราชธานี มีสถานที่การกุศลอีกแห่งหนึ่งที่ให้ความดูแลเด็กกำพร้าที่มาจากที่อื่นๆ ไม่ใช่จังหวัดอุบลราชธานีอย่างเดียวสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ (ทั้งสองท่าน ณ บ้านพระพร) ได้อุทิศตนทำให้ทราบว่า จิตอาสาจิตที่เป็นผู้ให้นั้นเป็นอย่างไร เด็กๆ เหล่านี้ ๑๘ คน พวกเขาไม่มีความผิดในการได้เกิดมา เพียงแต่พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่กับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด อาจจะด้วยเหตุผลบางประการ 


ตัวอย่างที่เห็นในรูปภาพ เด็กเล็กทั้งคู่ฝาแฝดกัน “น้องเบส กับ น้องบอล” ก็เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่บ้านพระพร นับโชคดีที่ยังมีแม่ตัวจริงอยู่ด้วย ซึ่งจะคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยความรู้สึกของความเป็นแม่ ถึงแม้ว่าโชคชะตาจะนำพาให้น้องเบสน้องบอลได้เกิดมาโดยที่ไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น (แต่ผมก็เชื่อว่า ทั้งน้องเบสและน้องบอล จะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน ถ้าท่านไม่เชื่อผม อีก ๒๐ ปี กลับมาอ่านบทความนี้อีกครั้งหนึ่งนะครับ)

(น้องเบสและน้องบอล กับคุณแม่พระพรและคุณแม่ของเบสบอล)

คุณแม่สอนให้เด็กทุกคนมีวินัยร่วมกัน อยู่ร่วมกันด้วยความรักซึ่งกันและกันให้ความเอื้อเฟื้อต่อกัน  และที่สำคัญคือ จะต้องให้การศึกษากับเด็กทุกๆ คน จนกว่าพวกเขาเหล่านี้จะสามารถเลี้ยงตัวเองได้  ซึ่งสิ่งที่ผมได้พูดคุยกับคุณแม่พระพรในวันนี้ คือ เด็กทุกคนที่กำลังเรียนศึกษาในโรงเรียนต่างๆ (ระดับต่างๆ) เช่น โรงเรียนเทพพิทักษ์พิทยา (เอกชน) โรงเรียนวิจิตราพิทยา (รัฐ) และวิทยาลัยสารพัดช่าง นั้น โดยการเรียนสมัยนี้ นักเรียนทุกคนจะต้องทำรายงานส่งครูโดยใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่ง ณ บ้านพระพร แห่งนี้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ อยู่ ๒ – ๓ เครื่องแต่ใช้ได้เครื่องเดียวเท่านั้น โดยในแต่ละคืนคุณแม่จะต้องมาจัดการใช้คอมพิวเตอร์ให้ลูกๆ เหล่านี้เพื่อได้ทำรายงานส่งครูที่โรงเรียน โดยจะอนุญาตให้ใช้ไม่เกินคนละ ๓๐ นาที (ผมก็เลยคิดว่า แล้วหนึ่งคืนมันมีกี่ชั่วโมงกันละนี่)  ก็เลยบอกคุณแม่ไปว่า หากมีโอกาสผมจะลองขอเครื่องคอมพิวเตอร์ของคณะวิทยาศาสตร์ ม.อุบลฯ มาให้ที่บ้านพระพร


สำหรับการเดินทางไปโรงเรียนของเด็กที่นี้ หากเป็นเด็กเล็กชั้นประถมซึ่งจะเรียนที่โรงเรียนเทพพิทักษ์พิทยา คุณแม่ก็จะขับรถสามล้อไปส่งเนื่องจากโรงเรียนดังกล่าวไม่ไกลจากบ้านพระพรมากนัก ส่วนเด็กโตที่จะต้องเรียนที่โรงเรียนวิจิตรพิทยาก็ให้นั่งรถประจำทาง (วิ่งระหว่างวารินชำราบ-พิบูลมังสาหาร) อย่างไรก็ตาม เวลาหน้าฝนจะเป็นปัญหาอย่างมาก เพราะถนนทางเข้าบ้านพระพรเป็นถนนดินหินลูกรัง ฝนตกลงมาเรียบร้อยหมดน้ำท่วม (ประมาณเกือบครึ่งหน้าแข้งเห็นจะได้) เด็กๆ ก็จะต้องเดินลุยออกไปปากทางถนนใหญ่แล้วค่อยไปใส่ถุงเท้ารองเท้าแล้วไปโรงเรียน โดยที่ผ่านมานักการเมืองท้องถิ่นเวลาจะเลือกตั้งก็สัญญาว่าจะมาดำเนินการให้  แต่พอเลือกตั้งแล้วก็หายหน้าไปหมด (อันนี้น่าจะเป็นธรรมชาติของนักการเมืองไทย)
นอกจากนั้น คุณแม่ยังได้ให้ข้อมูลว่า เด็กทุกคนจะมีปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยไข้ แต่ก็ยังโชคดีหน่อยที่มีบัตรทอง ๓๐ บาทรักษาทุกโรคได้ช่วยเหลือ แต่ว่าบางครั้งที่ลูกๆ เจ็บป่วยตอนกลางคืน การเดินทางไปโรงพยาบาลค่อนข้างจะลำบาก เนื่องจากสามล้อเครื่องที่มีอยู่ก็ไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร แต่คุณแม่ยังเล่าก็ยังดีกว่าเมื่อก่อนที่มีเพียงมอเตอร์ไชต์เท่านั้น  



อีกอย่างหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ เวลาท่านข้าวเด็กทุกคนจะมีช้อนรับประทานอาหารเป็นของตนเอง ดังนั้น สิ่งนี้ผมคิดว่าเป็นการฝึกฝนให้ลูกๆ  คือ "ให้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ" (เพราะหากใครทำช้อนหาย ก็คงไม่ได้ทานข้าวอย่างแน่นอน) ดังรูปภาพข้างล่างนี้


        สิ่งหนึ่งที่คุณแม่พระพรได้ฝากผมไว้   คือ อยากให้ลูกๆ เด็กๆ พวกนี้ได้มีโอกาส โอกาสที่ดีในการศึกษาในระดับที่พวกเขาเหล่านี้จะมีศักยภาพ  และหากมีผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคเรื่องหนังสือ ขอเป็นหนังสือทางวิชาการ (การ์ตูนไม่เอานะครับ บันเทิงก็ไม่เอา) เพื่อลูกๆ เด็กๆ จะได้อ่านเพิ่มเติมความรู้ให้ได้มากที่สุด

        และอีกสิ่งหนึ่งคุณแม่แห่งบ้านพระพรได้กำหนดไว้คือ เด็กทุกคนจะไม่ให้โทรศัพท์ถึงแม้ว่าจะมีญาตินำมาให้ก็ตามแต่ ผมก็เลยถามกลับว่า “ทำไมละครับคุณแม่”  คุณแม่ได้อธิบายเพิ่มเติม “ว่าโทรศัพท์ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นของเด็กในบ้านพระพร เพราะจะทำให้พวกเขาเสียเวลากับเรื่องของโทรศัพท์” ผมก็เลยไม่ถามต่อครับ

       สุดท้าย ที่ผมจะขออนุญาตสรุปอีกครั้ง คือ ณ บ้านพระพร เป็นบ้านที่ได้ให้ความอบอุ่นสำหรับเด็กที่ไม่มีโอกาสที่ดีเหมือนกับพวกเรา  ดังนั้น หากเป็นไปได้ท่านใดที่อยู่วารินชำราบ หรือ อุบลราชธานี หากวันหยุดท่านไม่มีที่ไป ลองไปที่แห่งนี้นะครับ แล้วท่านจะพบว่า “ชีวิตของคนเรานั้นมีค่าอย่างมาก หากมีโอกาสก็ลองให้โอกาสกับพวกเขาเหล่านี้” นะครับ  

ชีวิตคนมีค่า   ลองนำพาหาโอกาส
เสริมสร้างความสามารถ   บริจาคช่วยเหลือคน

โอกาสไม่เหมือนกัน  หากช่วยกันย่อมหลุดพ้น
ชีวิตต้องดิ้นรน ต้องอดทนรับผิดชอบ

มามืดไปสว่าง สร้างหนทางตามที่ชอบ
ทุกอย่างจิตสั่งบอก  คิดรอบคอบจะสุขเอย


มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒ เมษายน ๒๕๕๗

หมายเหตุ 
๒ เมษายน ๒๕๕๗ ทำบุญ ณ บ้านพระพร
ขอเรียนเชิญทำบุญเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กที่บ้านพระพร ในวัน ๒ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๑.๓๐ น. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในคล้ายวันพระราชสมภพพระองค์ท่าน 
ดูรูปภาพประกอบเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/mpsrivirat/media_set?set=a.680419468671028.1073742089.100001089437635&type=1

1 ความคิดเห็น: