จากการที่รัฐบาลของ
ฯพณฯ นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม
๒๕๕๔
ได้คำนึงถึงพลวัตรการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอก โดยนโยบายของรัฐบาลมีจุดมุ่งหมาย
๓ ประการ คือ
ประการที่หนึ่ง
เพื่อนำประเทศไทยไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่สมดุล
มีความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น
ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
การพัฒนาคุณภาพและสุขภาพคนไทยในทุกช่วงวัย
ถือเป็นปัจจัยชี้ขาดความสามารถในการอยู่รอดและแข่งขันได้ของเศรษฐกิจไทย
ประการที่สอง
เพื่อนำประเทศไทยสู่สังคมที่มีความปรองดองสมานฉันท์
และอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรมที่เป็นมาตรฐานสากลเดียวกันและมีหลักปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน
ต่อประชาชนคนไทยทุกคน
ประการที่สาม
เพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ อย่างสมบูรณ์
โดยสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม
และการเมืองและความมั่นคง
อีกทั้ง จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๔–๒๕๕๙) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา
ข้อ ๕.๕
ยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยข้อ ๕.๕.๓
การสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.๒๕๕๘
การเป็นประชาคมอาเซียนนั้นประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานหลักในสาขาการท่องเที่ยว
(Tourism)
และสาขาการบิน (Air travel) ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดต่อประเทศประชาคมอาเซียน
๒ ประเทศ คือ ลาวและกัมพูชา
จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินงานเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในด้านการท่องเที่ยว
โดยมีการกำหนดสาระการท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานีเป็น “เที่ยวก่อนใครในสยาม”
(เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีมีพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามที่ผาชะนะได) อีกทั้ง
สามารถที่จะกำหนดวิสัยทัศน์ของจังหวัดอุบลราชธานีในด้านการท่องเที่ยวเป็น “มหานครแห่งการท่องเที่ยวของอาเซียน”
ทั้งนี้ เป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว ๓ ธ ประกอบด้วย (๑) ธ : ธรรมชาติ (เป็นการท่องเที่ยวแห่งธรรมชาติต่างของจังหวัดอุบลราชธานี) (๒) ธ
: ธรรมะ (เป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมะ เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานี
ขึ้นชื่อเป็นเมืองแห่งนักปราชญ์และเมืองแห่งธรรมะ มีแห่งเรียนรู้ด้านธรรมะมากมาย) และ (๓) ธ : ธรรมดา (เป็นการท่องเที่ยวแห่งธรรมดาของชาวบ้านที่มีผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา
วัฒนธรรม สินค้าพื้นถิ่น สินค้า OTOP และการท่องเที่ยว Home
Stay กับชาวบ้านต่างที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ดีงาม)
ดังนั้น เพื่อเป็นการสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๔–๒๕๕๙) และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานหลักในสาขาการท่องเที่ยว
(Tourism)
และสาขาการบิน (Air travel) ข้างต้น
จังหวัดอุบลราชธานีจึงเสนอแผนงาน
“การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนด้านการท่องเที่ยวและการบริการ”
โดยมีโครงการดังต่อไปนี้
๑. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง
แห่งที่ ๖ ระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี กับ แขวงสาละวัน
๒. โครงการวางแผนให้มีถนนวงแหวนเลี่ยงเมือง
๓. โครงการปรับปรุงระบบการจราจรให้เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี
๔. โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ของจังหวัดอุบลราชธานี
(การปรับปรุงพื้นที่ศาลากลางหลังเดิมเป็นพื้นที่สาธารณะ พื้นที่สีเขียว)
๕. โครงการปรับปรุงโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
๖. โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี
๗. โครงการพัฒนาประตูเมืองแสดงความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา
๘. โครงการพัฒนาแห่งท่องเที่ยว
(การสร้างพระพุทธมณฑล การสร้างอุทยานบึงบัว การสร้างสวนสัตว์อุบลราชธานี
การพัฒนาสามพันโบก การพัฒนาอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย การพัฒนาอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
การพัฒนาวัดภูเขาแก้ว เป็นต้น)
๙. โครงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
๑๐.
โครงการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมในจังหวัดอุบลราชธานี
โดยโครงการที่ ๑, ๒, ๓, ๔, และ ๘ จะเป็นการส่งเสริมด้านท่องเที่ยวแบบ ธ :
ธรรมชาติ โครงการที่ ๗ และ ๘ (บางส่วน) จะส่งเสริมด้านท่องเที่ยวแบบ
ธ : ธรรมะ และโครงการที่ ๑๐ (อุตสาหกรรมด้านสินค้า OTOP)
จะส่งเสริมด้านท่องเที่ยวแบบ ธ : ธรรมดา ทั้งนี้ โครงการที่ ๕, ๖
และ ๙ จะเป็นการส่งเสริมด้านการบริการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น