วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ได้อะไรดีจาก สปป.ลาว (เวียงจันทร์)

เช้าวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เป็นวันหนึ่งที่สำคัญเช่นกันเพราะได้มาอยู่ที่ต่างประเทศ คือ นครเวียงจันทร์ เพื่อเข้าร่วมพิธีมอบปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้กับ ฯพณฯ พลโท พิจิต รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว


ตื่นจากที่นอนเวลาประมาณ ๖ นาฬิกา จิตสั่งให้ร่างกายจะต้องตื่นเพื่อออกไปสูดอากาศที่บริสุทธิ์ของนครเวียงจันทร์ โรงแรมที่พัก (โรงแรมลานช้าง) ติดกับแม่น้ำโขง ริมถนนมีต้นไม้ขนาดใหญ่มากเพื่อให้ออกซิเจนที่บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ต้องการในเวลาเช้า

ผู้เขียนตัดสินใจออกเดินจากโรงแรมไปตามถนนพร้อมด้วยโทรศัพท์แต่ใช้โทรไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับโทรศัพท์ที่ถือมาด้วยการในการเดินออกกำลังกาย คือ มันสามารถถ่ายภาพอาคารสถานที่สำคัญของนครเวียงจันทน์ได้ โดยขณะที่ออกเดินนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าประทับใจ อย่างประการที่ได้กล่าวไปแล้ว คือ ข้างถนนมีต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งสองข้างทาง ทำให้เห็นความร่มรื่นของธรรมชาติที่ให้อากาศที่บริสุทธิ์ นครเวียงจันทน์กำลังถูกปรับปรุงพัฒนาให้มีความทันสมัย อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต่างชื่นชอบ ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความไม่วุ่นวายเหมือนกับนครหลวงของประเทศต่างๆ ที่พัฒนาแล้วหรือที่กำลังพัฒนา ที่ล้วนมีแต่ความวุ่นวายของรถลาจราจรที่ยุ่งเหยิง ทำให้เกิดความเครียดในการเดินทาง

นครเวียงจันทร์มีมรดกที่ล้ำค่าในเรื่องของวัฒนธรรมศิลปอันเก่าแก่ที่ชาวเวียงจันทร์ได้พยายามที่จะอนุรักษ์ไว้ โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผสมผสานกันระหว่างอาคารบ้านเรือนวัฒนธรรมเก่าๆ กับสถานที่กำลังถูกพัฒนาตามกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนไปของสังคมโลก ซึ่งแน่นอนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวย่อมอาจจะทำให้สิ่งเก่าๆ นั้นถูกปรับเปลี่ยนไปถูกลบเลือนไปบ้าง อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่นครเวียงจันทร์มีอยู่เป็นอย่างดียิ่ง คือ ธรรมชาติของต้นไม้ และธรรมชาติของธรรรมะ วัดวาอารามที่อยู่ในกลางเมืองหลวง อันจะทำให้กลายเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติให้ยึดในเรื่องของ ๒ ธรรม คือ ธรรมชาติ และ ธรรมะ


นอกจากนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งอันประทับใจกับสำคัญผู้มาเยือนนครเวียงจันทร์ คือ การแต่งกายของสุภาพสตรีที่นี้ (นครเวียงจันทร์) ท่านได้แต่งกายตามขนบประเพณีอันดีของคนลาวได้เป็นอย่างดียิ่ง สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ประทับใจ แม้กระทั่งสุภาพสตรี (ที่เมืองไทยเรียกว่า สาวเชียร์เครื่องดื่มเบียร์) ที่นครเวียงจันทร์แต่งกายได้สุภาพ สมกับเป็นสุภาพสตรีจริง ผู้เขียนขอคารวะนับถือด้วยความจริงใจยิ่ง สำหรับการอนุรักษ์การแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของชาติ

ผู้เขียนคิดฝันว่า ในหน่วยงานที่ผู้เขียนทำงานอยู่ขณะนี้ จะเห็นท่านสุภาพสตรีที่พร้อมเพรียงกันแต่งกายในลักษณะที่อนุรักษ์วัฒนธรรมศิลปของไทยเราให้วันทำงานต่างๆ ในลักษณะที่บ่งบอกว่า นี้คือ การแต่งกายของสุภาพสตรีของไทยในหน่วยงานหนึ่งๆ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความฝันเท่านั้นเอง มันไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าในจังหวัดหนึ่งท่านหัวหน้าส่วนราชการสูงสุดจะมีหนังสือทางราชการได้ขอร้องความร่วมมือในการแต่งกายที่อนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีของไทย แต่การทำอย่างนั้นก็ไม่รู้จะได้ผลหรือไม่ เพราะการแต่งกายจะต้องออกมาจากจิตใจของผู้แต่งกายโดยธรรมชาติ จะแต่งกายเสมือนถูกบังคับ คงจะทำให้ไม่มีความสุขอย่างแน่แท้ที่เดียว

ก็ได้แต่หวังว่า ณ เวลาหนึ่ง ที่นครเวียงจันทร์จะช่วยจุดประกาย นำสิ่งที่ดีๆ ของนครเวียงจันทร์ มาใช้กับบ้านเราบ้าง อย่างน้อยที่สุด ๒ ธ นะครับ ธรรมชาติ และ ธรรมะมนูญ ศรีวิรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น