วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

ความเป็นมาของพิธีวันแห่งความดี อุบลราชธานี 11 พฤศจิกายน เวลา 11.11 น.

ความเป็นมาของพิธี "วันแห่งความดี อุบลราชธานี 11 พฤศจิกายน เวลา 11.11 น."

โดย นายสุรพล สายพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี


"...ผมย้ายมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ เดือนตุลาคม พ.ศ.2549 และได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี(ขณะนั้น คือ ท่านสุธี มากบุญ )ให้เตรียมการจัดงานที่ระลึกวันสถาปนาเมืองอุบลราชธานี 10 พฤศจิกายน และรับทราบจากผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวอุบลราชธานี(ขณะนั้นคือคุณ ธนภร พูลเพิ่ม (ปัจจุบันเป็นหัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวอุบลราชธานี) ว่า ทุกปี ในวันที่ 11 พฤศจิกายน จะมีชาวต่างชาติ (ยุโรปและอเมริกัน) กลุ่มหนึ่ง มาวางดอกไม้ที่อนุสาวรีย์ความดี (ตรงมุมทุ่งศรีเมืองทางโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี) เพื่อเป็นรำลึกถึงญาติที่ตกเป็นเชลยศึกในค่ายกักกันที่อุบลราชธานี เลยนำเรื่องนี้ยกหารือในที่ประชุมเพื่อยกเป็นกิจกรรมของจังหวัดอย่างเป็นทางการ

   โดยได้นำรูปแบบที่ผมเคยจัดที่จังหวัดตราดในงาน "ยุทธนาวีเกาะช้าง"เพื่อรำลึกถึงวีระชนเป็นแนวทาง อาทิ การวางพวงมาลา การกล่าวสดุดี การจุดโคมไฟ (จากที่เคยเห็นในพิธีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและที่ประตูชัยในนครปารีสเพื่อไว้อาลัยกับวีระชน)  การเป่าแตรเดี่ยว การขับร้องเพลงรำลึก แต่ให้เพิ่มบทภาษาอังกฤษ (แทรกอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่การแปล) โดยได้เขียนบทสดุดี พร้อมกับประสานหน่วยงานต่างๆและให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นผู้อ่านบทสดุดี แต่เมื่อถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2549 ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ท่านสุธี มากบุญ ติดภารกิจ ได้มอบผม เป็นประธานกล่าวแทน มีคนแปลกใจว่า ผมกล่าวเหมือนพูดสดๆ เหมือนไม่ได้อ่าน ผมเลยบอกว่า ผมเขียนบทตั้งใจให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอ่าน เมื่อท่านให้ผมมาอ่านแทน ผมก็จำบทได้อยู่แล้วเลยพูดได้เลยไม่ต้องอ่านมาก

 ทั้งนี้ได้ประสานวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานีจัดทำตะเกียงคบไฟ (แบบใช้แก๊สแต่ปรับวาวให้ใช้ออกซิเจนน้อย จะได้เห็นเปลวไฟ (ปัจจุบันตะเกียงนี้ใช้เป็นกระถางคบไฟสำหรับการแข่งขันกีฬาของวิทยาลัยเทคนิคเอง) ประสานวงดนตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีพร้อมตัวบุคคลที่ขับร้องเพลง  (กำหนดเพลงในพิธีคือ"ไร้รักไร้ผล" ส่วนเพลงบรรเลงทั่วไปให้ทางวงกำหนดเอง (ปัจจุบันผมได้เสนอให้ใช้เพลงสามัคคีชุมนุมซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ Auld Lang Syne แทน) พร้อมกับประสานนักศึกษาวิชาทหารโรงเรียนต่างๆมาร่วมพิธีร่วมกับหน่วยงานต่างๆ (เนื่องจากจัดเป็นครั้งแรก)..."

    ตั้งแต่นั้นมา ทราบว่างานที่ยอมรับจัดเป็นทางการทุกปี มีการแก้ไข รวมทั้งหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์เชื่อมโยง จนปัจจุบัน