"ปริญญา" เป็นสิ่งที่ได้จากมาความอดทนอุตสาหะบากบั่นขยันหมั่นเพียรเมื่อครั้งใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ผู้เขียนเชื่อว่าหลายๆ ท่านมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งผู้เขียนโชคดีที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ สองครั้งด้วยกัน ความรู้สึกดีใจตื่นเต้นปิติอย่างบอกไม่ถูก (สั่น ตัวสั่น) นึกถึงที่ไรก็อดที่จะปลื้มใจไม่ได้
ที่สำคัญคือ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตทุกคนจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ แน่นอนว่าคำปฏิญาณตนดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราบัณฑิตทุกคนจะต้องน้อมนำปฏิบัติตามให้ได้ (แต่บางท่านอาจจะจำได้ บางท่านอาจจะจำไม่ได้ ผู้เขียนเองก็จำไม่ได้ แต่.... สิ่งที่อยู่ในใจเสมอ คือ "จะจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" อันนี้ เป็นสิ่งที่บัณฑิตทุกคนทุกท่านจะต้องปฏิบัติตามคำปฏิญาณตน) โดยที่ ซี่ง ปริญญา : [ปะรินยา] น. หมายถึง ความกําหนดรู้, ความหยั่งรู้, ความรู้รอบ; ชั้นความรู้ขั้นมหาวิทยาลัยซึ่งประสาทให้แก่ผู้ที่สอบไล่ได้ตามที่กําหนดไว้ (อ้างอิง ๑)
สำหรับ ผู้เขียนเองสิ่งที่หนึ่งที่ดีใจ คือ คุณพ่อของผู้เขียนได้เห็นรูปภาพที่เข้าพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของในหลวง คุณพ่อมีความสุขอย่างยิ่ง แน่นอนว่า "ปริญญา" ดังกล่าวนั้นทรงคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ได้รับพระราชทาน และญาติๆ หมู่มิตรสหายเพื่อนฝูง พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ดังนั้น ปริญญาที่ทรงคุณค่าดังกล่าวจำเป็นจะต้องทำให้ "มีค่า" ยิ่งๆ ขึ้นไป กล่าวคือ การเป็นคนดี เป็น "บัณฑิต" ที่ดี ซึ่งบัณฑิต[บันดิด] น. หมายถึง ผู้ทรงความรู้ ผู้มีปัญญา นักปราชญ์ ผู้สําเร็จการศึกษาขั้นปริญญาซึ่งมี ๓ ขั้น คือ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก (อ้างอิง ๒)
กล่าวสำหรับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่ผู้เขียนได้เริ่มทำงานเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕ และได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่บัณฑิตรุ่นที่ ๑ และ ๒
พิธีเปิดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (อ้างอิง ๓)
ยี่สิบห้า เดือนหก ยกขึ้นมา
เพื่อวันทา พาสู่ รู้กันไว้
พระเทพองค์ ทรงเปิด เกิดสิ่งใหม่
หล่อมจิตใจ ไว้ก่อ มออุบลฯ
องค์พระเทพ สุดล้ำ นำปัญญา
พวกเรามา พาเติม เสริมเบื้องบน
นำสติ ริเริ่ม เพิ่มจิตตน
มออุบล คนดี ศรีแผ่นดิน
==== 0 ====
วันที่ยี่สิบห้า มิถุนาปีสามหก
พวกเราเหล่าพสก มาน้อมนบองค์ฟ้าหญิง
ทรงเปิดมออุบลฯ เราทุกคนสุขใจยิ่ง
ขอพระองค์เป็นมิ่ง เจริญยิ่งพลานามัย
มออุบลเจริญหน้า ชาวประชาล้วนสุขใจ
มออุบลต้องก้าวไกล น้อมด้วยใจถวายพระพร
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภาควิชาคณิตศาสตร์ สถิติและคอมพิวเตอร์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ประธานสถานศึกษา ร.ร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ ม.อุบลราชธานี จำกัด (พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๖)
อดีตรองอธิการบดี ม.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๕๕)
อ้างอิง พิธีเปิด ม.อุบลฯ (อ้างอิง ๔ YouTube)
และเมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสทำงานในฐานะรองอธิการบดี (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๕๕) สิ่งที่หนี่งที่จะต้องเขียนลงสูจิตบัตรพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสารแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลเพียงบางส่วน (เท่าที่จะรวบรวมได้) ทั้งนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมไว้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับผู้เขียนเอง และหรือหากบัณฑิตมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีจะได้ลองอ่านอีกสักครั้ง หากว่าสิ่งไหนดีก็เลือกนำไปประยุกต์ใช้ปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อบ้านเมือง และต่อประเทศชาติประเทศไทยของเรา
ทั้งนี้ เมื่อเช้าวันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๖ (๓/๔/๕๖) มีพิธีเปิด “อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา” โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร ดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (อ้างอิง พิธีเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา ม.อุบลฯ)
วันที่สามเมษา พวกเรามารับเสด็จ
อาคารถูกสร้างเสร็จ เฉลิมเจ็ดรอบพรรษา
สร้างเพื่อเจ้าแผ่นดิน นวมินทร์องค์ราชา
มออุบลอาสา เหล่าประชาพร้อมภักดี
ร่วมกันมาเข้าเฝ้า มาพวกเราร่วมยินดี
นับว่าเป็นโชคดี โอกาสดีได้นำพา
ราชกุมารี จรลีเสด็จมา
นับว่าเป็นบุญตา ที่ได้มาเข้าเฝ้าเอย
ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ ม.อุบลราชธานี จำกัด
ประธานสถานศึกษา ร.ร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร
อดีตรองอธิการบดี ม.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๕๕)
๓ เมษายน ๒๕๕๖
พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อย ทรงอ่อนเพลียวรกาย
มออุบลร่วมถวาย ขอทรงหายพระประชวร
พระหัตถ์ซ้ายทรงเจ็บ ทรงเสด็จมิเรรวน
คนไทยเราทั้งมวล ขอเชิญชวนถวายชัย
ขอทรงยั่งยืนยง ขอพระองค์ทรงแจ่มใส
ทุกแห่งของเมืองไทย มาร่วมใจถวายพร
ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ ม.อุบลราชธานี จำกัด
ประธานสถานศึกษา ร.ร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร
อดีตรองอธิการบดี ม.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๕๕)
๓ เมษายน ๒๕๕๖
ครับที่ กล่าวมาข้างต้นผู้เขียนได้นำเรียนเกี่ยวกับ "ปริญญา" ซึ่งบัณฑิตใหม่ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นสถาบันใดจะต้องให้ความสำคัญของ "การเป็นบัณฑิต" ที่ดี เพราะว่าบัณฑิตทุกท่านเป็นบัณฑิตที่ดี ย่อมจะส่งผลดีต่อหน่วยงานของบัณฑิตที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ เป็นผลดีต่อสังคมประเทศชาติในทีสุด เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วย่อมจะทำให้ปริญญาที่ได้รับพระราชทาน เป็น "ปริญญาที่ทรงคุณค่า" และที่สำคัญบัณฑิตอย่าลืมคำปฏิญาณตนกันนะครับ
การเป็นบัณฑิตใหม่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของโลกา ย่อมทำให้บัณฑิตจะต้องก้าวทันความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แน่นอนว่า “ความรู้” ที่ได้เรียนมาเมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมาอาจจะเก่าหรือไม่สามารถใช้ได้กับยุคปัจจุบันและอนาคต บัณฑิตเองจะต้องทำตัวให้สมกับที่เป็น “บัณฑิต” คือ ผู้มีปัญญา (ไม่ใช่ ผู้มีปัญหา นะครับ) ผู้มีปัญญา คือ จะต้องเริ่มจากการมี “สติ” คิด อย่างมี “สมาธิ” ในเรื่องงานในเรื่องหน้าที่ของบัณฑิตเพื่อจะได้เกิด “ปัญญา” ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามา ดังนั้น บัณฑิตยุดใหม่จะต้องก้าวทัน (หรือก้าวล่วงหน้า) ต่อ การเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ “การปรับเปลี่ยนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน” หรือ ด้านอื่นๆ ดังนั้น
เป็นบัณฑิตที่ดี จะต้องมีเรื่องความรู้
เคารพในคุณครู พร้อมเชิดชูประเทศไทย
บัณฑิต ม.อุบลฯ สู้อดทนด้วยหัวใจ
เรียนรู้ในสิ่งใหม่ พร้อมก้าวไกลในวิชา
การเรียนไม่หยุดนิ่ง ไม่ประวิงเสียเวลา
บัณฑิตทรงคุณค่า ต้องเสาะหารู้เพิ่มเติม
ขอแสดงความยินดี ขอให้มีสิ่งดีเสริม
สิ่งใดที่เหมือนเดิม ขอให้เริ่มดียิ่งเอย
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗